-•=»‡«=•- ReBoRn9Th-•=»‡«=•-

มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Miv31

Join the forum, it's quick and easy

-•=»‡«=•- ReBoRn9Th-•=»‡«=•-

มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Miv31

-•=»‡«=•- ReBoRn9Th-•=»‡«=•-

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
สมาชิกทันใดทำผิดกฎระเบียบของทางบอร์ดเราจะแบนทันทีไม่มีตักเตือนน

3 posters

    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า

    ฮิบารินจัง
    ฮิบารินจัง
    LEVEL 47
    LEVEL 47


    จำนวนข้อความ : 467
    ~::MØÑ€Ÿ::~ ~::MØÑ€Ÿ::~ : 644
    ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 16
    วันที่ลงทะเบียน : 22/12/2010
    อายุ : 26
    ทีอยู่ ทีอยู่ : โซลโซไซตี้
    สัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยง : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          873uu
    อาวุธ&อุปกรณ์ อาวุธ&อุปกรณ์ : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Gnnhlมารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Serht
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          27p84มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          1vm6xมารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          G1jf8
    เหรียญตรา เหรียญตรา : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          15034169มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Medal116

    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Empty มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า

    ตั้งหัวข้อ by ฮิบารินจัง Fri 18 Feb - 16:44

    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          840999 มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          840999 มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          840999 มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          840999 มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          840999
    อ่านกันบ้างก็ได้น๊
    อย่าลืมเม้นละ
    ฮิบารินจัง
    ฮิบารินจัง
    LEVEL 47
    LEVEL 47


    จำนวนข้อความ : 467
    ~::MØÑ€Ÿ::~ ~::MØÑ€Ÿ::~ : 644
    ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 16
    วันที่ลงทะเบียน : 22/12/2010
    อายุ : 26
    ทีอยู่ ทีอยู่ : โซลโซไซตี้
    สัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยง : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          873uu
    อาวุธ&อุปกรณ์ อาวุธ&อุปกรณ์ : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Gnnhlมารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Serht
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          27p84มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          1vm6xมารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          G1jf8
    เหรียญตรา เหรียญตรา : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          15034169มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Medal116

    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Empty Re: มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า

    ตั้งหัวข้อ by ฮิบารินจัง Fri 18 Feb - 16:46

    อ้าวลืมเอาลง
    เอาใหม่ๆ
    ความเป็นมาของ กระบี่ – กระบอง
    ชาติไทยเป็นชนชาติที่มีการต่อสู้ ศึกสงครามเพื่อป้องกันประเทศ รักษาความเป็นเอกราชของแผ่นดินที่ยาวนานชนชาติหนึ่ง คนไทยในยุคแรก ๆ ที่เริ่มก่อตั้งแผ่นดินสุวรรณภูมิแหลมทองมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ บรรพบุรุษในยุคดังกล่าวได้อาศัยสติปัญญา ความกล้าหาญ และใช้อาวุธนานาชนิดที่มีอยู่ในท้องถิ่นและกองทัพเข้าต่อสู้ป้องกันมาโดยตลอด เริ่มจากกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และ กรุงรัตนโกสินทร์ ชาติไทยเป็นชาติที่รักสงบมากกว่าที่จะคิดเบียดเบียนใคร ความที่เป็นชาติที่รักสงบจึงมักถูกรังแกอยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้คนในชาติสมัยก่อนต้องดิ้นรนช่วยตัวเองทั้งชายและหญิง บรรดาทหารกล้าตลอดจนชาวบ้านต่างฝึกฝน เสาะหาเรียนวิชาฟันดาบ และการต่อสู้ด้วยอาวุธนานาชนิด จึงเกิดมีการฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ จนถึงขั้นประลองฝีมือ
    ในสมัยก่อน การประลองแบบแรกเป็นเรื่องจริงจังอาศัยหลักวิชาการต่อสู้เป็นหลัก จึงมีคนนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าประลองกับชาวต่างชาติ หรือชาวตะวันตกที่ใช้อาวุธของเขาเป็นหลักก็ยิ่งทำให้เป็นที่สนใจมากขึ้น (ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็ยังมีการประลองมวย และการต่อสู้ด้วยอาวุธหน้าพระที่นั่งเหมือนกัน)
    ผู้เรียบเรียงคิดว่าการประลองทั้งสองแบบส่วนใหญ่คงจะมีปะปนกัน เพราะแบบที่สองให้ความสนุกสนานในการชมควบคู่กันไป และแบบที่สอง นี้คงจะพัฒนาการเล่นการแสดง ทำเลียนแบบ นัดแนะลูกไม้ แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ นอกจากบาดเจ็บเมื่อพลาดพลั้งบางครั้ง และมีคนนิยมดูมากขึ้น เมื่อถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชกาลที่ 1 - 2 มักจะเรียกว่า การประลองดาบ การประลองหอก การประลองยิงธนู เป็นต้น และเรียกบรรดาผู้คนที่มีวิชาความรู้เรื่องฟันดาบว่า นักดาบ นำหน้าสำนักหรือหมู่บ้านชุมชนนั้น ๆ เช่น นักดาบจากบ้านบางระจัน นักดาบจากกรุงศรีอยุธยา นักดาบจากพุกาม ทหารจากพม่า ลาว เขมร แต่จะไม่มีใคร เรียกว่า นักกระบี่กระบอง เพราะคำว่า กระบี่ – กระบอง เกิดหลังรัชสมัยของรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์คำว่า กระบี่ – กระบอง มีคำกล่าวถึงที่มาของคำนี้อยู่หลายประการ แต่ยังมีเหตุผลที่น่าคิดและน่าเชื่อถือได้อีก ประการหนึ่ง กล่าวคือ
    เรื่องรามเกียรติ์ กระบี่ หมายถึง หัวหน้าฝ่ายลิง(หนุมาน) ถือตรีหรือสามง่ามสั้น ๆ เป็นอาวุธ ลิงรูปร่างเล็กเคลื่อนไหวเร็ว แคล่วคล่องว่องไว ลูกน้องพลลิงทั้งหลายบางตัวก็ใช้พระขรรค์เป็นอาวุธ
    กระบอง หมายถึง พวกยักษ์ที่พกกระบองเป็นอาวุธ ยักษ์มีรูปร่างใหญ่โต เคลื่อนไหวช้า เพราะฉะนั้นการจัดระเบียบเรียกแยกประเภท อาวุธที่ใช้แสดงต่อสู้ป้องกันตัวน่าจะมาจากการแยกฝ่ายยักษ์และลิง โดย ถือว่าลิงรูปร่างเล็กและผู้พากย์โขนมักเรียกขนานนามว่า ขุนกระบี่ ซึ่งหมายถึง หนุมานหัวหน้าลิง ซึ่งมีตรีหรือสามง่ามสั้นพกเป็นอาวุธประจำกาย และพลลิงตัวอื่น ๆ พกอาวุธสั้น เช่น พระขรรค์ เป็นต้น
    ฉะนั้นคำว่า "กระบี่" จึงถูกนำมาเป็นคำเรียกแยกให้รู้ว่าอาวุธสั้นทั้ง หลายจะรวมเรียกว่า กระบี่ ซึ่งมี ดาบ โล่ ดั้ง เขน ไม้ศอกสั้น มีดสั้น พระขรรค์ เคียว ขวาน ตรี สามง่ามสั้น และ สีโหล่
    “กระบอง" มาจาก ยักษ์ ที่ถือกระบองเป็นอาวุธยักษ์รูปร่างใหญ่โตและ การเคลื่อนไหวไม่ไวเท่าลิง อาวุธนี้จึงถูกจัดเรียกว่า กระบอง ไม่ว่าสั้นหรือยาวเป็นหัวหน้า ให้ความหมายรวมเป็นของยาวทั้งมวล ถ้าพูดตามความ จริงแล้วการเคลื่อนไหวการต่อสู้จะทำได้ดีซึ่งส่วนมากจะเป็นวงนอก ส่วนของสั้นจะทำได้ทั้งวงนอกและวงใน
    ฉะนั้นคำว่า “กระบอง“ จึงถูกแยกเรียกเป็นที่รวมของอาวุธยาวที่ใช้แสดงทั้งหมด เช่น พลอง กระบอง ง้าวทุกชนิด โตมร ทวน หอก เป็นต้น
    การเรียกกระบี่กระบองยังมีหลักฐานให้เห็นชัดในเรื่องอาวุธที่นิยมใช้แสดงและเล่นกัน คือ คู่ของไม้ศอกสั้นกับพลอง นั่นคือความหมายที่ถูกจัดให้เห็นว่า อาวุธสั้นคือลิง ผู้แสดงจะแสดงถึงหลักวิชาความคล่องแคล่วว่องไว ส่วนพลองหรือกระบองคือตัวแทนของยักษ์เป็นประเภทอาวุธยาว

    ประโยชน์ของการฝึก
    • เพื่อให้จิตใจฮึกเหิม มีความกล้า
    • เพื่อให้ได้ความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
    • เพื่อให้จิตใจแข็งแกร่ง กล้าตัดสินใจ
    การแสดงกระบี่กระบอง
    การแสดงกระบี่กระบอง มักจะแสดงแบบชายต่อสู้กับชาย หรือ ชายต่อสู้กับหญิง โดยใช้อาวุธหลายประเภทเช่น กระบี่ กระบอง ดาบเดี่ยว ดาบคู่ ดาบโล่ห์ แต่เท่าที่นิยมคือ การแสดงแบบนักดาบชายต่อสู้กับนักดาบหญิง อย่างเช่น การแสดงของนักศึกษาภาควิชาพละศึกษา ฝ่ายชายเปลือยท่อนบน สวมกางเกงสามส่วนผูกผ้าที่เอว รัดผ้าประเจียดที่โคนแขน ใช้ง้าว แสดงว่านักรบระดับขุนศึก ฝ่ายหญิงสวมชุดตะเบ็งมาล โพกศีรษะด้วยผ้าสามเหลี่ยม ใช้กระบี่ ทั้งสองฝ่ายจะลดล่อเพื่อดูท่าทีชั้นเชิงของคู่ต่อสู้ ฝ่ายชายนักรบไทย ซึ่งมีนิสัยใจร้อนกว่าเป็นผู้เริ่มรุกฝ่ายหญิงพม่าคู่อริไทยเป็นฝ่ายรับ ซึ่งด้วยชั้นเชิงและพละกำลังของฝ่ายชายไทย ทำให้ฝ่ายหญิงตั้งรับได้อย่างเดียว จนในที่สุดฝ่ายหญิงก็เพลี่ยงพล้ำ ถูกฟาดอาวุธตก ฝ่ายชายหนุ่มไทยแสดงความเป็นลูกผู้ชาย เขี่ยกระบี่กลับคืนให้ฝ่ายหญิงแสร้งก้มลงเก็บ แต่กลับพุ่งเข้าหาฝ่ายชาย เพราะง้าวเป็นอาวุธยาว จะแข็งแกร่งเมื่ออยู่วงนอก ได้เปรียบกระบี่ของฝ่ายหญิงแต่เกิดจุดอ่อนเมื่อถูกรุกวงใน พอเข้าคลุกวงใน ฝ่ายชายไทยไม่ทันระวังตัวจึงถูกสาวอริตีที่ชายโครง สลับกับต่อยท้องนักดาบไทยพอเห็นนักรบไทยเริ่มอ่อนแรง ฝ่ายหญิงพม่าจึงตรงเข้าแย่งอาวุธง้าวแต่ฝ่ายชายยังขัดขืนและเหวี่ยงเธอลงไปกับพื้นชายไทยง้างง้าวจะจ้วงคู่ต่อ แต่แม่หญิงลุกนั่งกอดโคนขาขุนศึกหนุ่ม เขาจะจ้วงก็ไม่ถนัดฝ่ายหญิงเล็งเป้าง่ามขาคู่ต่อสู้หนุ่มอยู่แล้ว เห็นเขาคาดผ้ารัดกระจับ จึงรัดโคนขานักรบไทยให้แน่นพลางสอดมือเข้าไปในผ้ารัดกระจับ ฝ่ายชายเกร็งตัวตามสัญชาตญาณรั้งง้าวมาที่โคนขา หมายเสือกลงใส่อริ แต่หญิงสาวเมื่อคลำเจอถุงตะเคียวชายไทย ก็ออกแรงบีบลูกตะเคียวทั้งสองลูกความจุกเสียดพุ่งขึ้นจากท้องน้อยเหมือนเครื่องในจะทะลักขึ้นมาทำให้นักรบไทยตัวงอร่างสั่นสะท้าน หมดแรงที่แทงง้าว ฝ่ายหญิงอริทั้งบิดทั้งดึงเครื่องเพศฝ่ายชายเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้เขามากที่สุด ชายไทยอกสามศอกแต่เมื่อถูกบีบกษัยเพียงครู่เดียว เขาก็สิ้นเรี่ยวแรงอาวุธตก แม่หญิงพม่าไม่ปราณีเธอรีดกษัยทำลายชาติพันธุ์ชายไทยสิ้น แล้วเธอจึงคลายมือมายืนขึ้นกวักไกว่ฝ่ายชายเป็นเชิงเยาะ ฝ่ายชายเลือดร้อน ถูกหญิงคู่อริหยามศักดิ์ศรีชายไทย ก็ตรงเข้าวางมวยไทยใส่ ฝ่ายหญิงก็ใช้มวยพม่าตั้งรับอย่างใจเย็น เพราะฝ่ายชายยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ เพียงครู่เดียวก็หมดแรง เธอจึงตรงเข้าตบหน้าชายไทย สะบัดไปมาจนเข้ามึน แล้วต่อยท้องซ้ำๆ ฝ่ายหญิงพม่าถอยไปหยิบกระบี่หมายเผด็จศึก ฝ่ายชายแม้อ่อนแรงแต่ใจสู้กัดฟันคว้าง้าวตรงเข้าจ้วง ฝ่ายหญิงเพียงเบี่ยงหลบแล้วตวัดฟาดกระบี่ฟันสะพายแล่งนักรบไทย อนิจจา...เลือดวีรบุรุษหลั่งออกเป็นสาย แต่แม่หญิงคู่อริยังไม่วายลอบเข้าด้านหลังเขา จิกผมด้วยมือซ้าย ใช้กระบี่ปาดกระเดือกนักรบไทยขาดสะบั้น ชายหนุ่มแอ่นร่าง แล้วกระตุกสองสามครั้งจึงขาดใจตาย... หญิงพม่าสะบัดกระบี่ตัดหัวนักรบไทยขาดกระเด็น นักดาบหญิงผลักร่างไร้วิญญาณของคู่ต่อสู้ลงไปนอนทอดกาย
    ประวัติกระบี่กระบอง
    คำปรารภของ อาจารย์นาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา
    "อันวิชากระบี่กระบองนี้ ข้าพเจ้ากล้าพูดได้อย่างเต็มปากโดยไม่มีความกระดากเลยแม่แต่น้อย ว่าเป็นกีฬาของไทยเราแท้ๆ เป็นน้ำพักน้ำแรงของบรรพบุรุษผู้เป็นนักรบที่กล้าหาญ ซึ่งได้ลงทุนลงแรงไว้ด้วยความเสียสละ อุตส่าห์บากบั่นหาทางที่จะอบรมให้มีเลือกเนิ้อเชิ้อชาติทหาร อันเป็นวีระกรรมประจำชาติของไทย ซึ่งมีมาแต่ไหนแต่ไร มิให้เสื่อมคลายหรือจืดจางลงไปได้ จึงได้อบรมสั่งสอนสืบเนื่องมาจนกระทั้งถึงพวกเราสมัยนี้ การที่ข้าพเจ้ากล้สยืนยันได้หนักแน่นขนาดนี้ ก็เพราะข้าพเจ้าไม่เคยเห็นกีฬาชนิดนี้ในต่างประเทศเลย จะเป็นทางตะวันตกหรือตะวันออกก็ตาม และถ้าเคยมีปรากฏในสมัยก่อนๆ มาบ้างแล้ว เชื่อแน่ว่าคงจะไม่สูญสิ้นพันธุ์เสียทีเดียว คงจะยังเหลือเป็นมรดกตกทอดเอาไว้ใหเแก่ชนชั้นหลังบ้างไม่มากก็น้อย แต่นี่ก็ไม่มีร่องรอยเอาเสียเลยจึงทำให้ภาคภูมิใจที่จะกล่าวได้ว่ากระบี่กระบองของเราเป็นหนึ่งเดียวในโลก"

    กระบี่กระบอง จัดเป็นศิลปะการต่อสู้ของไทย ที่มีความสำคัญอย่างสูงยิ่ง กระบี่กระบอง มีประวัติมายาวนาน ใช้ต่อสู้ปกบ้านป้องเมืองเรามาหลายครั้ง กษัตริย์ไทยในสมัยเก่าก่อนนั้น ก็ใช้ดาบ พลอง ง้าว ต่อสู้เพื่อป้องกันจากผู้รุกราณมากมาย จนปัจจุบัน กระบี่กระบองได้เป็นกีฬาไทยที่คู่ควรแก่การอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างมาก ยิ่งนับวันยิ่งหาดูได้ยากยิ่ง แต่ก็ยังมีหลายที่หลายสำนัก พยายามอนุรักษ์วิชากระบี่กระบองนี้เอาไว้ เพราะคนไทยปัจจุบันเห็นวิชากระบี่กระบองเป็นวิชาที่ดูโหดร้าย จึงไม่นิยมให้บุตรหลานมาเล่นกีฬากระบี่กระบอง จึงทำให้ค่อยหายไปจากคนไทยไป มีเพียงแค่การเรียนในหลักสูตรของมัธยมและมหาวิทยาลัยเท่านั้น

    ประวัติ กระบี่กระบอง
    เริ่มต้นกระบี่กระบองที่แท้จริงนั้นไม่ทราบได้แน่ชัดว่า เริ่มกันมาตั้งแต่ครั้งไหนและใครเป็นผู้คิดค้นขึ้น เพราะไม่สามารถค้นคว้าจากแหล่งใดได้ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะท่านครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆ ได้เคยเรียนและได้เคยสอนแต่ในทางปฏิบัติอย่างเดียวมิได้ห่วงใยในอันที่จะสั่งสอนในทางทฤษฎีเลย ฉะนั้น ศิษย์จึงขาดความรู้ในด้านนี้กันเสียสิ้น แต่ด้วยเหตุที่ไทยเราเป็นนักรบแต่โบราณกาล กระบี่กระบองซึ่งเป็นเกมของนักรบก็น่าจะได้ริเริ่มกันเป็นเวลานานมาแล้วด้วยเหมือนกัน หลักฐานที่พอจะอ้างอิงได้นั้นคาดว่าคงมีแล้วในรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะพระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสืออิเหนา ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า
    "เมื่อนั้น ท้าวหมันหยาปรีเปรมเกษมสันต์
    เห็นอิเหนาเข้ามาบังคมคัล จึงปราศรัยไปพลันทันที
    ได้ยินระบือลือเล่า ว่าเจ้าชำนาญการกระบี่
    ท่าทางทำนองคล่องดี วันนี้จงรำให้น้าดู
    แล้วให้เสนากิดาหยัน จัดกันขึ้นตีทีละคู่
    โล่ดั้งดาบเชลยมลายู จะได้ดูเล่นเป็นขวัญตา"
    ตามข้อความที่กล่าวนี้ย่อมจะชี้ให้เห็นว่า กระบี่กระบองคงเป็นที่รู้จักกันดีในสมัยนี้แล้ว
    ครั้นต่อมาในรัชกาลที่ 3 ท่านสุนทรภู่ได้แต่งเรื่องพระอภัยมณีกับศรีสุวรรณ สององค์พี่น้อง ทูลลาสมเด็จพระราชบิดาไปป่าเพื่อแสวงหาวิชาความรู้อันเป็นประเพณีนิยมจากอาจารย์ทิศาปาโมกข์ ซึ่งในที่สุดก็ได้พบเล่าเรียนกับอาจารย์ ผู้ซึ่งมีวิชาต่างกัน ดังปรากฏในข้อความตอนหนึ่งว่า
    "สิบห้าวันดั้นเดินในไพรสณฑ์ ถึงตำบลบ้านหนึ่งใหญ่หนักหนา
    เรียกว่าบ้านจันตคามพราหมณ์พฤฒา มีทิศาปาโมกข์อยู่สองคน
    อาจารย์หนึ่งชำนาญในการปี่ ทั้งดีดสีแสนเสนาะเพราะหนักหนา
    ผู้ใดฟังวังเวงในวิญญา เคลิ้มนิทราลืมกายดังวายปราณ"
    ต่อมาในรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดปรานกระบี่กระบองเป็นพิเศษ ถึงกับโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์ทรงหัดกระบี่กระบองจนครบวง และเมื่อปีขาล พุทธศักราช 2409 ซึ่งเป็นปีที่กำหนดให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเป็นสามเณรตามราชประเพณี ครั้นเมื่อพระองค์ทรงผนวชแล้วโปรดฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอแต่งพระองค์อย่างราชกุมาร ทรงเล่นกระบี่กระบองเป็นการสมโภชที่หน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้านายที่ทรงกระบี่กระบองในครั้งนั้นคือ
    คู่ที่ 1 กระบี่กระบอง
    เจ้าฟ้าตุรนตรัศมี (สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระจักรพรรดิพงศ์)
    พระองค์เจ้ากัมลาศเลอสรร (กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร)
    คู่ที่ 2 พลอง
    พระองค์เจ้าคัดนางยุคล (กรมหลวงพิชิตปรีชากร)
    พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ (กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์)
    คู่ที่ 3 ง้าว
    พระองค์เจ้าสุขสวัสดิ์ (กรมหลวงอดิศรอุดมเดช)
    พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ (กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม)
    คู่ที่ 4 ดาบ 2 มือ
    พระองค์เจ้าอุนากรรณอนันตนรชัย
    พระองค์เจ้าชุมพลรัชสมโภช (กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์)
    การเล่นกระบี่กระบองเริ่มฟักตัวเป็นการใหญ่ในแผ่นดินนี้เอง เพราะตามปกติ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดกีฬาอะไร กีฬาชนิดนั้นก็ย่อมเจริญและเฟื่องฟู ประชาชนพลเมืองก็หันหน้ามาเอาใจใส่ตามไปด้วย ฉะนั้นกระบี่กระบองจึงเล่นกันแพร่หลายในงานสมโภชต่าง ๆ เช่น งานโกนจุก งานบวชนาค งานทอดกฐิน งานทอดผ้าป่า ฯลฯ
    เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ในรัชกาลที่ 4 ทรงเล่นกระบี่กระบองเป็นกันหลายพระองค์เช่นนี้ เข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคงจะทรงกีฬาชนิดนี้เป็นในครั้งนั้นด้วยพระองค์เองด้วยเหมือนกัน เพราะตามหลักฐานปรากฏว่า พระองค์ได้เคยทรงศึกษาวิชามวยและวิชากระบี่กระบอง ฟันดาบกับหลวงพลโยธานุโยค ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงเล่นเป็นนี้เองในรัชกาลของพระองค์ พระองค์จึงได้โปรดฯ ให้มีการตีกระบี่กระบองและชกมวยไทยหน้าพระที่นั่งในงานสมโภชอยู่เนืองๆ พระองค์เสด็จทอดพระเนตรและพระราชทานรางวัลแก่ผู้แสดงและแข่งขันบ่อยๆ ฉะนั้นกระบี่กระบองจึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นกันมากในกรุง และอาจจะดูได้หลายครั้งในปีหนึ่งๆ สมัยนี้เป็นสมัยที่นิยมชมชอบกันมากที่สุด จึงทำให้กระบี่กระบองมีอยู่ดาษดื่น และมีมากคณะด้วยกัน
    ครั้นถึงรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ความครึกครื้นในการเล่นกระบี่กระบองชักจะลดน้อยลงไป ถึงแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงฝักใฝ่ในวิชานาฎศิลป์ และทรงเข้าพระทัยในศิลปะของวิชากระบี่กระบองก็ตาม แต่ก็ไม่ทรงโปรดปรานมากเท่ากับพระราชบิดาของพระองค์ ถึงกระนั้น ก็ยังมีการจัดกีฬาชนิดนี้ขึ้นถวายเพื่อถวายทอดพระเนตรบ้างเป็นครั้งคราว เช่น ในปีพุทธศักราช 2460 กับ 2462 กระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในงานกรีฑาประจำปี ได้จัดการแสดงกระบี่กระบองขึ้นถวายทอดพระเนตรที่สนามหน้าสามัคยาจารย์สมาคม ในการแสดงทั้งสองครั้งนี้ ท่านอาจารย์ นาคเทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้แสดงถวายทั้งสองครั้ง ครั้งแรกแสดงง้าว ครั้งหลังแสดงพลอง ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนี้ กระบี่กระบองชักน้อยลงไป แต่มวยเป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น สมัยที่มีการแข่งขันเก็บเงินค่าผ่านประตู เพื่อซื้ออาวุธให้เสือป่าที่สนามสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นต้น รู้สึกว่าสนุกสนานและครึกครื้นยิ่งอยู่พักหนึ่ง ครั้นต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 กระบี่กระบองก็ค่อยๆ หมดไปจนเกือบจะหาดูไม่ค่อยได้
    ท่านอาจารย์ นาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นผู้หนึ่งที่ได้เล่าเรียนวิชานี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กและเป็นผู้ที่รักใคร่ในศิลปะวิชานี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านได้แลเห็นต่างชาติเขาภูมิใจในศิลปะประจำชาติของเขา เช่น ชาติเยอรมันและญี่ปุ่น เขายกย่องวิชาฟันดาบและวิชายูโดของเขาว่าเป็นเลิศ พยายามสงวนและเผยแพร่ให้เป็นที่ประจักษ์แก่โลกมากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้ท่านบูชาวิชากระบี่กระบองของไทยไว้เหนือสิ่งใด ๆ มากขึ้นเพียงนั้น ในโอกาสที่ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนพลศึกษากลาง ท่านได้เริ่มลองสั่งสอนนักเรียนพลศึกษากลางขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2478 ทดลองสอนอยู่ 1 ปี ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจของท่านผู้ใหญ่ จึงได้กำหนดวิชากระบี่กระบองไว้ในหลักสูตรของประโยคครูผู้สอนพลศึกษา เมื่อ ปี พ.ศ.2479 นับแต่นั้นมาได้มีผู้เล่าเรียนและสำเร็จมากขึ้นเป็นลำดับ
    *little
    *little
    LEVEL 24
    LEVEL 24


    แรงค์พิเศษ : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Rank_member03
    จำนวนข้อความ : 231
    ~::MØÑ€Ÿ::~ ~::MØÑ€Ÿ::~ : 1259
    ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 20
    วันที่ลงทะเบียน : 22/12/2010
    อายุ : 26
    ทีอยู่ ทีอยู่ : เมืองนามิโมริ

    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Empty Re: มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า

    ตั้งหัวข้อ by *little Sun 20 Feb - 18:51

    ยาวมากๆ แต่ ก็ขอบคุณค่า มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          840999
    bozzman
    bozzman
    ~lnw_VONGOLA~
    ~lnw_VONGOLA~


    แรงค์พิเศษ : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          I_love_tsuna_ranking_01
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Rank_lambo_member-v.i.p
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Rank_vip_member
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Rank_chromefc_vipmember
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Yamavip
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          I45sx
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Vocaloid_vip_member_ranking
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Anigif_06
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Cvmsf
    จำนวนข้อความ : 1217
    ~::MØÑ€Ÿ::~ ~::MØÑ€Ÿ::~ : 1820
    ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 31
    วันที่ลงทะเบียน : 07/03/2011
    อายุ : 26
    ทีอยู่ ทีอยู่ : บ้านริมน้ำเดินไปเจอเลย
    แหวน แหวน : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Aaaaaa13มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          9effc49875มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Kbull
    สัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยง : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Aauaaa10มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Scaled.php?tn=0&server=810&filename=qvf86
    อาวุธ&อุปกรณ์ อาวุธ&อุปกรณ์ : มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Ev1g4มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Pijpoi
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          008e73b9fb.gif
    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          9r2wcมารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          20ab6657c0

    มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า          Empty Re: มารู้จักกระบี่ – กระบอง กันดีกว่า

    ตั้งหัวข้อ by bozzman Sun 13 Mar - 13:04

    เเต๊งกั๊บ

      เวลาขณะนี้ Sun 19 May - 16:50