[You must be registered and logged in to see this image.]
ที่มาของเทศกาลฉลองดวงดาวแบบดั้งเดิมมาจากจีน มีที่มาจากเทพนิยายเรื่องชายเลี้ยงวัวและหญิงทอผ้าซึ่งมีบันทึกมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน( 206 ปีก่อน ค.ศ.-ค.ศ. 220)และญี่ปุ่นในสมมัยนะระ(ค.ศ. 710-194)ก็ได้รับแบบอย่างเทศกาลนี้มาจากจีนอีกต่อหนึ่งซึ่งจะฉลองกันในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้นแต่ต่อมาในสมัยเอโดะ(ค.ศ. 1603-1868)เทศกาลนี้ได้กลายเป็นเทศกาลที่แพร่หลายในหมู่สามัญชนทั่วไป
ตำนานซึ่งเป็นที่มาของเทศกสลฉลองดวงดาวนี้มีอยู่ว่า มีหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนดีมาก แต่มักโดนพี่สะใภ้กลั่นแกล้งอยู่เสมอวันหนึ่งเขาถูกแกล้งให้ไปเลี้ยงวัว 9 ตัว
แต่ต้องรอจนกว่าจะมีวัวครบ 10 ตัวจึงจะกลับบ้านได้ ในขณะที่ชายหนุ่มอับจนปัญญาอยู่นั้นก็มีชายชราเดินมาบอกว่าบนภูเขามีวัวแก่กำลังป่วยหากไปช่วยรักษา
มันจนหายก็สามารถพากลับบ้านได้(ซึ่งแท้จริงแล้ววัวแก่ตัวนี้เป็นเทพวัวที่ทำผิดกฎสวรรค์จึงถูกขับไล่ลงมาบนโลกจนขาหัก)หนุ่มเลี้ยงวัวจึงไปหาวัวดังกล่าว
เมื่อพบเข้าเขาได้รักษามันเป็นอย่างดีจนหาย จึงมีวัวทั้ง10ตัวกลับไปยังบ้านของตน
อยู่มาวันหนึ่งเทพวัวได้บอกกับชายหนุ่มว่า"พรุ่งนี้เป็นวันที่ 7 เดือน 7 นางฟ้า 7 องค์จะมาสรงน้ำในโลกมนุษย์ถ้าท่านสามารถเก็บเสื้อผ้าของนางฟ้าองค์ใดองค์หนึ่งไว้ได้ นางฟ้าองค์นั้นจะยอมแต่งงานกับท่าน"เมื่อได้ฟังดังนั้น หนุ่มเลี้ยงวัวตัดสินใจจะลองทำตาม เมื่อวันดังกล่าวมาถึงนางฟ้าทั้ง 7 ซึ่งหนุ่งในนั้นคือเทพธิดาสาวทอฟ้า ก็ลงมาสรงน้ำจริงๆหนุ่งเลี้ยงวัวเห็นจึงรีบคว้า้เสื้อของสาวทอผ้าแล้ววิ่งหนี แต่เขากลับหกล้มจนจนเกิดเสียงดังนางฟ้าจกใจจึงรีบสวมเสื้อผ้าของตนแล้วเหาะกลุบสู่สวรรค์ ยกเว้นสาวทอผ้าที่ไม่มีเสื้อผ้า หนุ่มเลี้ยงวัวจึงรีบขอนางแต่งงานสาวทอผ้าพยักหน้ารับด้วยความเหนียมอาย
หลังจากแต่งงานกันทั้งสองต่างมีตวามสุขและมีลูกชายลูกสาวอย่างละคน แต่เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ได้ทราบเรื่องเข้าก็ทรงพิโรธ จึงบัยชาให้พระชายาของพระองค์จับตัวสาวทอผ้ากลับไปทำให้ทะ้งคู่ต้องพรากจากกันเทพวัวสงสารจึงได้บอกกับชายหนุ่ม ว่าเมื่อตนตายให้เอาหนังของตนมาตัดเป็นรองเท้า เพราะใส่แล้วจะสามารถขึ้นไปบนสวรรค์ได้
เมื่อเทพวัวสิ้นใจ ชายหนุ่มจึงทำตามที่วัวเทพได้เคยบอกไว้ เมื่อได้รองเท้าวิเศษมาแล้วจึงพาลูกทั้งสองเหาะขึ้นไปบนฟ้าเพื่อตามหาสาวทอผ้าอันเป็นที่รัก แต่เมื่อจะได้พบกัน พระชายาได้สร้างทางช้างเผือกขวางกั้นหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าไว้คนละฟากฟ้า ทั้งสองรู็สึกเสียใจจนเอาแต่ร้องไห้
กระทั่งนกสี่เชวี่ย(นกมงคลประเภทหนึ่งของจีน)เกิดความสงสารจึงรวมตัวกันเป็นสะพานให้คู่รักมาพบกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นพระชายาจึงทรงพระทัยอ่อน และอนุญาติให้ทั้งคู่พบกันได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น คือทุกวันที่ 7 เดือน 7 ซึ่งก็คือวันของเทศกาลฉลองดวงดาวนั่นเอง
ปล.หากในคืนวันเทศกาลนเกิดตกนกสี่เชวี่ยจะไม่มา ทำให้หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าต้องรอถึงปีหน้าถึงจะได้พบกันอีกครั้ง
เกร็ดความรู้
ชื่อในทางดาราศาสตร์ของดาวชายเลี้ยงวัวคือ ดาวอัลแตร์
และดาวหญิงทอผ้าคือ ดาวเวก้าล่ะ
เทศกาลในญี่ปุ่นจะมีชื่อว่า ทานาบาตะ
ส่วนในประเทศจีน เรียกว่า เทศกาลซีซี
[You must be registered and logged in to see this image.]
ีE.Q.Plus สร้างโลกคววามรู้ด้วยความสนุก
ที่มาของเทศกาลฉลองดวงดาวแบบดั้งเดิมมาจากจีน มีที่มาจากเทพนิยายเรื่องชายเลี้ยงวัวและหญิงทอผ้าซึ่งมีบันทึกมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน( 206 ปีก่อน ค.ศ.-ค.ศ. 220)และญี่ปุ่นในสมมัยนะระ(ค.ศ. 710-194)ก็ได้รับแบบอย่างเทศกาลนี้มาจากจีนอีกต่อหนึ่งซึ่งจะฉลองกันในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้นแต่ต่อมาในสมัยเอโดะ(ค.ศ. 1603-1868)เทศกาลนี้ได้กลายเป็นเทศกาลที่แพร่หลายในหมู่สามัญชนทั่วไป
ตำนานซึ่งเป็นที่มาของเทศกสลฉลองดวงดาวนี้มีอยู่ว่า มีหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนดีมาก แต่มักโดนพี่สะใภ้กลั่นแกล้งอยู่เสมอวันหนึ่งเขาถูกแกล้งให้ไปเลี้ยงวัว 9 ตัว
แต่ต้องรอจนกว่าจะมีวัวครบ 10 ตัวจึงจะกลับบ้านได้ ในขณะที่ชายหนุ่มอับจนปัญญาอยู่นั้นก็มีชายชราเดินมาบอกว่าบนภูเขามีวัวแก่กำลังป่วยหากไปช่วยรักษา
มันจนหายก็สามารถพากลับบ้านได้(ซึ่งแท้จริงแล้ววัวแก่ตัวนี้เป็นเทพวัวที่ทำผิดกฎสวรรค์จึงถูกขับไล่ลงมาบนโลกจนขาหัก)หนุ่มเลี้ยงวัวจึงไปหาวัวดังกล่าว
เมื่อพบเข้าเขาได้รักษามันเป็นอย่างดีจนหาย จึงมีวัวทั้ง10ตัวกลับไปยังบ้านของตน
อยู่มาวันหนึ่งเทพวัวได้บอกกับชายหนุ่มว่า"พรุ่งนี้เป็นวันที่ 7 เดือน 7 นางฟ้า 7 องค์จะมาสรงน้ำในโลกมนุษย์ถ้าท่านสามารถเก็บเสื้อผ้าของนางฟ้าองค์ใดองค์หนึ่งไว้ได้ นางฟ้าองค์นั้นจะยอมแต่งงานกับท่าน"เมื่อได้ฟังดังนั้น หนุ่มเลี้ยงวัวตัดสินใจจะลองทำตาม เมื่อวันดังกล่าวมาถึงนางฟ้าทั้ง 7 ซึ่งหนุ่งในนั้นคือเทพธิดาสาวทอฟ้า ก็ลงมาสรงน้ำจริงๆหนุ่งเลี้ยงวัวเห็นจึงรีบคว้า้เสื้อของสาวทอผ้าแล้ววิ่งหนี แต่เขากลับหกล้มจนจนเกิดเสียงดังนางฟ้าจกใจจึงรีบสวมเสื้อผ้าของตนแล้วเหาะกลุบสู่สวรรค์ ยกเว้นสาวทอผ้าที่ไม่มีเสื้อผ้า หนุ่มเลี้ยงวัวจึงรีบขอนางแต่งงานสาวทอผ้าพยักหน้ารับด้วยความเหนียมอาย
หลังจากแต่งงานกันทั้งสองต่างมีตวามสุขและมีลูกชายลูกสาวอย่างละคน แต่เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ได้ทราบเรื่องเข้าก็ทรงพิโรธ จึงบัยชาให้พระชายาของพระองค์จับตัวสาวทอผ้ากลับไปทำให้ทะ้งคู่ต้องพรากจากกันเทพวัวสงสารจึงได้บอกกับชายหนุ่ม ว่าเมื่อตนตายให้เอาหนังของตนมาตัดเป็นรองเท้า เพราะใส่แล้วจะสามารถขึ้นไปบนสวรรค์ได้
เมื่อเทพวัวสิ้นใจ ชายหนุ่มจึงทำตามที่วัวเทพได้เคยบอกไว้ เมื่อได้รองเท้าวิเศษมาแล้วจึงพาลูกทั้งสองเหาะขึ้นไปบนฟ้าเพื่อตามหาสาวทอผ้าอันเป็นที่รัก แต่เมื่อจะได้พบกัน พระชายาได้สร้างทางช้างเผือกขวางกั้นหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าไว้คนละฟากฟ้า ทั้งสองรู็สึกเสียใจจนเอาแต่ร้องไห้
กระทั่งนกสี่เชวี่ย(นกมงคลประเภทหนึ่งของจีน)เกิดความสงสารจึงรวมตัวกันเป็นสะพานให้คู่รักมาพบกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นพระชายาจึงทรงพระทัยอ่อน และอนุญาติให้ทั้งคู่พบกันได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น คือทุกวันที่ 7 เดือน 7 ซึ่งก็คือวันของเทศกาลฉลองดวงดาวนั่นเอง
ปล.หากในคืนวันเทศกาลนเกิดตกนกสี่เชวี่ยจะไม่มา ทำให้หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าต้องรอถึงปีหน้าถึงจะได้พบกันอีกครั้ง
เกร็ดความรู้
ชื่อในทางดาราศาสตร์ของดาวชายเลี้ยงวัวคือ ดาวอัลแตร์
และดาวหญิงทอผ้าคือ ดาวเวก้าล่ะ
เทศกาลในญี่ปุ่นจะมีชื่อว่า ทานาบาตะ
ส่วนในประเทศจีน เรียกว่า เทศกาลซีซี
[You must be registered and logged in to see this image.]
ีE.Q.Plus สร้างโลกคววามรู้ด้วยความสนุก
แก้ไขล่าสุดโดย VoNgOLaPRiMO เมื่อ Fri 13 May - 9:58, ทั้งหมด 8 ครั้ง