ความลับเกี่ยวกับผู้สืบสายเลือดจากพระเยซูถูกเก็บไว้เป็นเวลานับพันปีโดยไม่มีใครทราบเรื่อง สมาคมลับดูจะทำหน้าที่ปกปิดความลับได้ดีมาก ถ้าเช่นนั้น ลินคอล์นได้เบาะแสของเรื่องนี้มาได้อย่างไร
สาเหตุของเรื่องเริ่มขึ้นในปี 1969 ขณะที่ลินคอล์นไปพักผ่อนที่ประเทศฝรั่งเศส เขาได้ซื้อหนังสือชื่อ The Accured Treasure of Renne le Chateau แต่งโดย เจราร์ด เดอ ซาด ซึ่งเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับชีวิตของพระในสังฆมณฑลในศตวรรษที่ 19 ชื่อ เบรองเจ โซนิแอร์ ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสและเป็นผู้ค้นพบบันทึกจำนวนหนึ่งที่ถูกซ่อนไว้ภายในเสาโบสถ์
ข้อความในบันทึกถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือ ตามความเห็นของ เดอ ซาด ข้อความในบันทึกระบุถึงข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งเขาได้ทิ้งข้อความดังกล่าวไว้เป็นปริศนาโดยไม่มีการแปล ในเวลานั้น ลินคอล์นได้ติดต่อไปยังเดอ ซาดซึ่งแนะนำให้เขาศึกษาข้อมูลจากเอกสารจำนวนหนึ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติของฝรั่งเศส เอกสารดังกล่าวมีชื่อว่า Dossier Secrets หรือ เอกสารลับ
นี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานเกี่ยวกับ สมาคมลับไพรออรี่ โดยเอกสารระบุว่า สมาคมลับก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1099 และยังได้ก่อตั้งขุมกำลังของตนเป็นกองทหารที่ชื่อ อัศวินแห่งเทมพลาร์ (The Knights of Templar)
ผู้ปกครองคนแรกในราชวงศ์เมอโรวิงเจียน ชื่อ เมอโรเว็ค ซึ่งเป็นผู้ครองอาณาจักรฟรังก์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 5 เรื่องราวของ เมอโรเว็ค มีอยู่ในรูปของตำนานมากกว่าข้อเท็จจริง เช่น ตำนานที่ระบุว่า เมอโรเว็คมีพ่อเป็นปลา ข้อมูลพวกนี้ทำให้เฮนรี่ ลินคอล์นสนใจ
ลินคอล์นและผู้ร่วมเขียนหนังสือเล่มนี้เชื่อว่า พวกเขาได้ค้นพบโยงใยระหว่างพระเยซูกับราชวงศ์เมอโรวิงเจียน และกล่าวว่า สมาชิกคนหนึ่งในราชวงศ์เมอโรวิงเจียนชื่อ เธโอโดริก ได้สวมมงกุฎขึ้นเป็นผู้นำชนชาติยิวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ในอดีตเรียกว่า เซพติมาเนีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ผู้เขียนกล่าวว่า เธโอดอริกเป็นที่รู้จักกันในฐานะราชาของชาวยิวและเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงจากเดวิด ซึ่งทำให้เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลที่สามารถสืบสาวไปถึงพระเยซู
เรื่องนี้ก่อให้เกิดสมมติฐานที่เป็นที่ถกเถียงกันและเป็นต้นตอของหนังสือ ''โลหิตศักดิ์สิทธิ์และจอกศักดิ์สิทธิ์'' รวมทั้ง ''รหัสลับดาวินชี'' ซึ่งระบุว่าราชวงศ์เมอโรวิงเจียนสืบเชื้อสายมาจากพระเยซูและแมรี่ แมกดาเลน และไพรออรี่ ออฟ ไซออน ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้สืบสายโลหิตจากพระเยซู แต่เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับเบรองเจ โซนิแอร์และแรนน์ เลอ ชาโต เพื่อเข้าใจเรื่องนี้ เราต้องย้อนกลับไปในปี 679 เมื่อผู้ปกครองคนหนึ่งในราชวงศ์เมอโรวิงเจียนที่ชื่อ ดาโกแบต์ที่สอง ถูกลอบสังหาร
เรื่องนี้นำเรากลับไปยังข้อความลับที่เฮนรี่ ลินคอล์น พบอยู่ในหนังสือของเจราร์ด เดอ ซาด ความลับเรื่องผู้สืบสายเลือดจากพระเยซูก็คือ สมบัติแห่งแรนน์ เลอ ชาโต ใช่หรือไม่ การค้นพบความจริงเรื่องนี้ได้ทำให้พระที่ไม่มีเงินสักแดงเดียวอย่าง เบรองเจ โซนิแอร์ กลายเป็นเศรษฐี เอกสารลับไม่ได้ให้คำตอบของเรื่องนี้ แต่กลับมีความจริงเรื่องอื่น
นั่นก็คือ รายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ในฐานะหัวหน้าของสมาคมไพรออรี่ ออฟ ไซออน) ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความเคลือบแคลงในชีวิตและการงานของผู้มีชื่อเสียงเหล่านี้แล้ว ยังเป็นการท้าทายประวัติศาสตร์โลก ฉบับที่เป็นที่ยอมรับกันอยู่ในขณะนี้อีกด้วย ถ้าเป็นไปตามที่อ้างว่า สมาคมลับไพรออรี่ ออฟ ไซออน ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้สืบสายเลือดของพระเยซู
ในรายชื่อยาวเหยียดที่สืบย้อนไปได้ถึงปี 1188 บันทึกลับยังได้ให้รายชื่อที่ประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกด้วยเช่น บอททิเซลลี่ จิตรกรเลื่องชื่อในยุคเรอเนสซองส์ วิกเตอร์ ฮิวโก ผู้ประพันธ์เรื่อง Hunchback of Notre Dame และ Les Miserables นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเช่น ไอแซค นิวตัน และ ลิโอนาโด ดาร์วินชี
หลายคนเชื่อว่า การเป็นคนที่มีทั้งสองขั้ว (เป็นคนเงียบขรึม ขณะเดียวกันก็เป็นวิศวกรของกองทัพ) ทำให้ลิโอนาโดเป็นคนที่สามารถเก็บความลับได้และเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบสำหรับสมาคมลับไพรออรี่ ออฟ ไซออน ในรหัสลับดาวินชี่ ได้ยกย่องสิ่งประดิษฐ์ลึกลับชิ้นหนึ่งว่ามาจากฝีมือของลิโอนาโด สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นความลับสุดยอดของไพรออรี่ ออฟ ไซออน มีชื่อเรียกว่า Crypt text
ข้อความที่เป็นความลับถูกเขียนบนกระดาษปาปิรัส จากนั้นนำไปพันรอบแก้วที่บรรจุน้ำส้มสายชู ของทั้งสองชิ้นถูกใส่ไว้ในช่องว่างในกระบอกทรงยาวซึ่งต้องแก้โค้ดตัวอักษรให้ถูกต้องเพื่อเปิดออก สิ่งที่กล่าวไว้ในรหัสลับดาวินชี่ คือ หากน้ำส้มสายชูซึมออกมาจะย่อยกระดาษปาปิรัสให้สลายในทันที ศัตรูก็ไม่สามารถล่วงรู้ข้อความที่เป็นความลับได้
ทีนี้ถ้าคุณเกิดลืมรหัสขึ้นมาจะทำอย่างไร กลไกของอุปกรณ์จะทำให้แก้วแตกหรือไม่ น้ำส้มสายชูจะย่อยสลายกระดาษปาปิรัสไหมและลิโอนาโดประดิษฐ์อุปกรณ์ดังกล่าวนี้จริงหรือ
ทั้งหมดนี้คือนิยายสืบสวนสอบสอนที่โยงใยซับซ้อนและอื้อฉาวที่สุด
สาเหตุของเรื่องเริ่มขึ้นในปี 1969 ขณะที่ลินคอล์นไปพักผ่อนที่ประเทศฝรั่งเศส เขาได้ซื้อหนังสือชื่อ The Accured Treasure of Renne le Chateau แต่งโดย เจราร์ด เดอ ซาด ซึ่งเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับชีวิตของพระในสังฆมณฑลในศตวรรษที่ 19 ชื่อ เบรองเจ โซนิแอร์ ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสและเป็นผู้ค้นพบบันทึกจำนวนหนึ่งที่ถูกซ่อนไว้ภายในเสาโบสถ์
ข้อความในบันทึกถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือ ตามความเห็นของ เดอ ซาด ข้อความในบันทึกระบุถึงข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งเขาได้ทิ้งข้อความดังกล่าวไว้เป็นปริศนาโดยไม่มีการแปล ในเวลานั้น ลินคอล์นได้ติดต่อไปยังเดอ ซาดซึ่งแนะนำให้เขาศึกษาข้อมูลจากเอกสารจำนวนหนึ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติของฝรั่งเศส เอกสารดังกล่าวมีชื่อว่า Dossier Secrets หรือ เอกสารลับ
นี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานเกี่ยวกับ สมาคมลับไพรออรี่ โดยเอกสารระบุว่า สมาคมลับก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1099 และยังได้ก่อตั้งขุมกำลังของตนเป็นกองทหารที่ชื่อ อัศวินแห่งเทมพลาร์ (The Knights of Templar)
ผู้ปกครองคนแรกในราชวงศ์เมอโรวิงเจียน ชื่อ เมอโรเว็ค ซึ่งเป็นผู้ครองอาณาจักรฟรังก์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 5 เรื่องราวของ เมอโรเว็ค มีอยู่ในรูปของตำนานมากกว่าข้อเท็จจริง เช่น ตำนานที่ระบุว่า เมอโรเว็คมีพ่อเป็นปลา ข้อมูลพวกนี้ทำให้เฮนรี่ ลินคอล์นสนใจ
ลินคอล์นและผู้ร่วมเขียนหนังสือเล่มนี้เชื่อว่า พวกเขาได้ค้นพบโยงใยระหว่างพระเยซูกับราชวงศ์เมอโรวิงเจียน และกล่าวว่า สมาชิกคนหนึ่งในราชวงศ์เมอโรวิงเจียนชื่อ เธโอโดริก ได้สวมมงกุฎขึ้นเป็นผู้นำชนชาติยิวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ในอดีตเรียกว่า เซพติมาเนีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ผู้เขียนกล่าวว่า เธโอดอริกเป็นที่รู้จักกันในฐานะราชาของชาวยิวและเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงจากเดวิด ซึ่งทำให้เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลที่สามารถสืบสาวไปถึงพระเยซู
เรื่องนี้ก่อให้เกิดสมมติฐานที่เป็นที่ถกเถียงกันและเป็นต้นตอของหนังสือ ''โลหิตศักดิ์สิทธิ์และจอกศักดิ์สิทธิ์'' รวมทั้ง ''รหัสลับดาวินชี'' ซึ่งระบุว่าราชวงศ์เมอโรวิงเจียนสืบเชื้อสายมาจากพระเยซูและแมรี่ แมกดาเลน และไพรออรี่ ออฟ ไซออน ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้สืบสายโลหิตจากพระเยซู แต่เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับเบรองเจ โซนิแอร์และแรนน์ เลอ ชาโต เพื่อเข้าใจเรื่องนี้ เราต้องย้อนกลับไปในปี 679 เมื่อผู้ปกครองคนหนึ่งในราชวงศ์เมอโรวิงเจียนที่ชื่อ ดาโกแบต์ที่สอง ถูกลอบสังหาร
เรื่องนี้นำเรากลับไปยังข้อความลับที่เฮนรี่ ลินคอล์น พบอยู่ในหนังสือของเจราร์ด เดอ ซาด ความลับเรื่องผู้สืบสายเลือดจากพระเยซูก็คือ สมบัติแห่งแรนน์ เลอ ชาโต ใช่หรือไม่ การค้นพบความจริงเรื่องนี้ได้ทำให้พระที่ไม่มีเงินสักแดงเดียวอย่าง เบรองเจ โซนิแอร์ กลายเป็นเศรษฐี เอกสารลับไม่ได้ให้คำตอบของเรื่องนี้ แต่กลับมีความจริงเรื่องอื่น
นั่นก็คือ รายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ในฐานะหัวหน้าของสมาคมไพรออรี่ ออฟ ไซออน) ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความเคลือบแคลงในชีวิตและการงานของผู้มีชื่อเสียงเหล่านี้แล้ว ยังเป็นการท้าทายประวัติศาสตร์โลก ฉบับที่เป็นที่ยอมรับกันอยู่ในขณะนี้อีกด้วย ถ้าเป็นไปตามที่อ้างว่า สมาคมลับไพรออรี่ ออฟ ไซออน ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้สืบสายเลือดของพระเยซู
ในรายชื่อยาวเหยียดที่สืบย้อนไปได้ถึงปี 1188 บันทึกลับยังได้ให้รายชื่อที่ประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกด้วยเช่น บอททิเซลลี่ จิตรกรเลื่องชื่อในยุคเรอเนสซองส์ วิกเตอร์ ฮิวโก ผู้ประพันธ์เรื่อง Hunchback of Notre Dame และ Les Miserables นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเช่น ไอแซค นิวตัน และ ลิโอนาโด ดาร์วินชี
หลายคนเชื่อว่า การเป็นคนที่มีทั้งสองขั้ว (เป็นคนเงียบขรึม ขณะเดียวกันก็เป็นวิศวกรของกองทัพ) ทำให้ลิโอนาโดเป็นคนที่สามารถเก็บความลับได้และเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบสำหรับสมาคมลับไพรออรี่ ออฟ ไซออน ในรหัสลับดาวินชี่ ได้ยกย่องสิ่งประดิษฐ์ลึกลับชิ้นหนึ่งว่ามาจากฝีมือของลิโอนาโด สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นความลับสุดยอดของไพรออรี่ ออฟ ไซออน มีชื่อเรียกว่า Crypt text
ข้อความที่เป็นความลับถูกเขียนบนกระดาษปาปิรัส จากนั้นนำไปพันรอบแก้วที่บรรจุน้ำส้มสายชู ของทั้งสองชิ้นถูกใส่ไว้ในช่องว่างในกระบอกทรงยาวซึ่งต้องแก้โค้ดตัวอักษรให้ถูกต้องเพื่อเปิดออก สิ่งที่กล่าวไว้ในรหัสลับดาวินชี่ คือ หากน้ำส้มสายชูซึมออกมาจะย่อยกระดาษปาปิรัสให้สลายในทันที ศัตรูก็ไม่สามารถล่วงรู้ข้อความที่เป็นความลับได้
ทีนี้ถ้าคุณเกิดลืมรหัสขึ้นมาจะทำอย่างไร กลไกของอุปกรณ์จะทำให้แก้วแตกหรือไม่ น้ำส้มสายชูจะย่อยสลายกระดาษปาปิรัสไหมและลิโอนาโดประดิษฐ์อุปกรณ์ดังกล่าวนี้จริงหรือ
ทั้งหมดนี้คือนิยายสืบสวนสอบสอนที่โยงใยซับซ้อนและอื้อฉาวที่สุด