[You must be registered and logged in to see this link.]
1.คุณควรจะเริ่มต้นหันหน้าเผชิญปัญหาที่คุณปล่อยให้คาราคาซัง เป็นหนามตำใจคุณให้หมดไป ค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยความมั่นใจ ค่อยๆ ทำ และไม่ปล่อยให้ปัญหาใหม่เรื้อรัง ค้างคา สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน จะแก้ไขด้วยวิธีใด แก้ไขได้อย่างไร ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร ต้องปรึกษาใคร พ่อแม่พี่น้องญาติมิตรคนไหนที่ช่วยได้ ทุกวิถีทางที่จะทำให้ปัญหาหลุดพ้น คุณต้องเริ่มวางแผนและเลือกตัดสินใจ
2.หลีกหนีจากความเคยชินเก่าๆ ที่คุณเคยกระทำมาทุกวัน หนีความซ้ำซากจำเจ คุณจะทำอย่างไรก็ได้ที่คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับคุณ เช่น หลังจากแต่งงานแล้ว คุณไม่เคยไปดูหนังกันเลยเป็นเวลา 5 ปี คุณก็ควรหาเวลาให้กับตัวเองบ้าง ไม่ใช่คุณคิดว่าต่อไปนี้ชีวิตคุณมีไว้เพื่อลูก ทำทุกอย่างเพื่อลูกเท่านั้น คุณควรจะหันมาดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกของตัวเองบ้าง หรือถ้าคุณคิดอยากจะแต่งบ้านมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเสียที ก็ทำเสีย เพียงแต่มีเคล็ดอยู่นิดเดียวว่า ทำอะไรก็ได้ ขอให้เริ่มทำเสียแต่เดี๋ยวนี้
3.อย่าหวังให้โชคดีวิ่งมาหาคุณ หรือรอคอยสิ่งที่คุณต้องการจากคนอื่น การรอคอยความหวังแบบฟลุกๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ซื้อ
4.หาโอกาสพบปะผู้คนให้มากๆ เปิดใจให้กว้าง พยายามมองชีวิตในหลายๆ แง่มุม การได้พบผู้คนใหม่ๆ อาจจะทำให้คุณได้ความคิดที่หลากหลาย การเข้าเรียนในคอร์สสั้นๆ ที่คุณสนใจ เช่น ภาษา ดนตรี การวาดภาพ กีฬา ศิลปะต่างๆ ฯลฯ จะได้พบเพื่อนใหม่มากมาย อย่าปล่อยตัวเองให้จมปลักอยู่แต่ในโลกของคุณเอง การเรียนรู้ชีวิตจากผู้คนจะทำให้คุณได้กำไรชีวิตเป็นเรื่องจริงที่คุณสัมผัสได้
ความเบื่อหน่ายที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นข้อสอบข้อหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งคุณจะสอบผ่านหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวคุณนั่นเองค่ะ
1.คุณควรจะเริ่มต้นหันหน้าเผชิญปัญหาที่คุณปล่อยให้คาราคาซัง เป็นหนามตำใจคุณให้หมดไป ค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยความมั่นใจ ค่อยๆ ทำ และไม่ปล่อยให้ปัญหาใหม่เรื้อรัง ค้างคา สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน จะแก้ไขด้วยวิธีใด แก้ไขได้อย่างไร ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร ต้องปรึกษาใคร พ่อแม่พี่น้องญาติมิตรคนไหนที่ช่วยได้ ทุกวิถีทางที่จะทำให้ปัญหาหลุดพ้น คุณต้องเริ่มวางแผนและเลือกตัดสินใจ
2.หลีกหนีจากความเคยชินเก่าๆ ที่คุณเคยกระทำมาทุกวัน หนีความซ้ำซากจำเจ คุณจะทำอย่างไรก็ได้ที่คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับคุณ เช่น หลังจากแต่งงานแล้ว คุณไม่เคยไปดูหนังกันเลยเป็นเวลา 5 ปี คุณก็ควรหาเวลาให้กับตัวเองบ้าง ไม่ใช่คุณคิดว่าต่อไปนี้ชีวิตคุณมีไว้เพื่อลูก ทำทุกอย่างเพื่อลูกเท่านั้น คุณควรจะหันมาดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกของตัวเองบ้าง หรือถ้าคุณคิดอยากจะแต่งบ้านมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเสียที ก็ทำเสีย เพียงแต่มีเคล็ดอยู่นิดเดียวว่า ทำอะไรก็ได้ ขอให้เริ่มทำเสียแต่เดี๋ยวนี้
3.อย่าหวังให้โชคดีวิ่งมาหาคุณ หรือรอคอยสิ่งที่คุณต้องการจากคนอื่น การรอคอยความหวังแบบฟลุกๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ซื้อ
4.หาโอกาสพบปะผู้คนให้มากๆ เปิดใจให้กว้าง พยายามมองชีวิตในหลายๆ แง่มุม การได้พบผู้คนใหม่ๆ อาจจะทำให้คุณได้ความคิดที่หลากหลาย การเข้าเรียนในคอร์สสั้นๆ ที่คุณสนใจ เช่น ภาษา ดนตรี การวาดภาพ กีฬา ศิลปะต่างๆ ฯลฯ จะได้พบเพื่อนใหม่มากมาย อย่าปล่อยตัวเองให้จมปลักอยู่แต่ในโลกของคุณเอง การเรียนรู้ชีวิตจากผู้คนจะทำให้คุณได้กำไรชีวิตเป็นเรื่องจริงที่คุณสัมผัสได้
ความเบื่อหน่ายที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นข้อสอบข้อหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งคุณจะสอบผ่านหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวคุณนั่นเองค่ะ