ดร.เทพนม เชื่อมนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง และคงไม่มีใครฉวยสร้างสถานการณ์ ย้ำ การมาที่ อ.แม่จัน ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ล่าสุดถึงกับลงมาดูมนุษย์ตีกอล์ฟ ด้านหมอประสานเชื่อมีโลกคู่ขนานอยู่ใกล้ชิดกับโลก มนุษย์ต่างดาวอาจทำลายมิติมาโพล่ที่เชียงราย ขณะที่ราชบัณฑิตด้านวิทยาศาสตร์แนะควรดูให้ละเอียดก่อนเพราะอาจจะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นก็ได้
จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านห้วยน้ำราก ต.จันจว้า อ.แม่จัน จำนวนกว่า 10 คน อ้างว่าพบเห็นมนุษย์ประหลาด ที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายมนุษย์ต่างดาวที่บริเวณทุ่งนาใกล้ลำเหมืองกลางหมู่บ้าน เมื่อเช้าตรู่วันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมาจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ประธานอำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยาศาสตร์ทางจิต ผู้ที่ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว และ”ยูเอฟโอ” มากว่า 10 ปี ได้แสดงความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวน่าจะมาที่ อ.แม่จัน จริง เพราะภายหลังจากทราบเรื่องก็ได้ส่งผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไปตรวจสอบพื้นที่ และพูดคุยกับชาวบ้าน
"จนได้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30น. ขณะที่ชาวบ้านประมาณ 15 คน กำลังจะออกไปทำนา ก็เห็นมนุษย์รูปร่างประหลาด ผิวสีเหลือง ดวงตาโตลักษณะวงรี ศีรษะลักษณะคล้ายหลอดไฟนีออน และลำตัวเล็ก แต่ชาวบ้านไม่ได้สังเกตลักษณะมือ และเท้าว่ามีกี่นิ้ว โดยมนุษย์ประหลาดได้ปรากฏตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยืดลำตัวยาวสูงเท่าต้นมะขวิด ก่อนจะลอยขึ้นไปบนฟ้าและหายไป" ดร.เทพนมผู้คร่ำหวอดในการตามหาและสัมผัสกับมนุษย์ต่างดาวของประเทศไทยอธิบาย
ศ.ดร.นพ.เทพนม กล่าวต่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นที่ อ.แม่จัน ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้มีผู้พบเห็นมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโออยู่หลายครั้ง สำหรับเขาได้มีโอกาสเห็นยานมนุษย์ต่างดาว และมีรูปที่ถ่ายเก็บไว้ได้ประมาณ 200 รูป อีกทั้งมีชาวต่างชาติที่สนใจติดต่อขอซื้อภาพดังกล่าวอยู่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดขณะที่ตนกำลังตีกอล์ฟ มนุษย์ต่างดาวก็ได้ลงมาดู โดยยืนห่างจากเขาประมาณ 100 เมตรก่อนจะหายตัวไป
“เหตุที่มนุษย์ต่างดาวไม่กลัวคน เชื่อว่าเขาคงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่ามนุษย์ในการป้องกันตัว จึงไม่เกิดความกลัว และคิดว่าคงไม่มีใครมาสร้างสถานการณ์ เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร เรื่องนี้จึงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะต่างประเทศได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก” ประธานอำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยาศาสตร์ทางจิต กล่าว
ด้าน ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ นักวิชาการอาวุโส ซึ่งศึกษาทางด้านมิติคู่ขนาน ให้ความเห็นว่าเป็นไปได้ที่จะเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง แต่ก็ไม่ยืนยันว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเต็มร้อยเพียงแต่มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะในจักรวาลนั้นมีมิติที่ซับซ้อน มีโลกคู่ขนานที่อาจจะอยู่ห่างจากโลกเราเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเพียงแต่เราไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะว่าเราชินในการรับรู้สิ่งที่สื่อกันด้วยความถี่คลื่นของแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น เสียง แสง คลื่นวิทยุต่างๆ ในโลก 4 มิติของเรา ซึ่งโลกที่มีมิติมากกว่าอาจจะสื่อกันด้วยสิ่งอื่น ดังนั้นการมาให้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาวในโลกที่มีมิติมากกว่า เช่น 6 มิติ อาจจะทำลายมิติลงเพื่อมาปรากฏให้เราเห็นก็ได้
ทั้งนี้ “หมอประสาน” เชื่อว่าสิ่งที่อยู่ในโลกที่มิติมากกว่าจะสามารถทำลายมิติเพื่อมาปรากฏในมิติที่ต่ำกว่าได้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่าหนังสือ “โลกคู่ขนาน” (Parallel World) ของ ดร.มิชิโอะ กากุ (Dr. Michio Kaku) นักฟิสิกส์จากซิตียูนิเวอร์สซิตีออฟนิวยอร์ก (City University of New York) ได้อธิบายถึงการมีอยู่จริงของโลกคู่ขนานด้วยทฤษฎีที่มีข้อสมมติฐานทางคณิตศาสตร์ที่สมบูรณ์ อีกทั้งลักษณะของมนุษย์ต่างดาวที่ชาวบ้านบอกเล่าก็คล้ายๆ กับมนุษย์ต่างดาวที่เชื่อว่ามีอยู่จริงคือหัวโต สีเหลืองๆ เขียว เกือบเทา ขาลีบ ปากเล็ก ตาโตและสูงประมาณ 3 ฟุตซึ่งก็ใกล้เคียงกับคำบอกเล่า
ขณะเดียวกันนายนิพนธ์ ทรายเพชร ราชบัณฑิตสาขาดาราศาสตร์ให้ความเห็นว่าอย่าเพิ่งไปเชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ควรดูให้ละเอียดก่อนเพราะอาจจะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นก็ได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ก็มีสามารถทำให้มีขึ้นได้ซึ่งก็ไม่ใช่ของแปลก อย่างภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นยูเอฟโอเมื่อพิสูจน์แล้วก็พบว่าเป็นภาพที่แต่งขึ้น อีกทั้งหากเป็นมนุษย์มนุษย์ต่างดาวจริงๆ ก็ควรจะเดินทางด้วยยานอวกาศ เพราะในทางฟิสิกส์แล้วไม่สามารถเดินทางโดยไม่มียานได้ และถ้าหากมาจริงโดยไม่มียานก็อาจจะเป็นวิญญาณซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เครดิต :: [You must be registered and logged in to see this link.]
.
.
.
เรื่องนี้มันนานแล้วล่ะ แต่อ่านๆไว้บ้างก้อดีนาาาา +w+''
จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านห้วยน้ำราก ต.จันจว้า อ.แม่จัน จำนวนกว่า 10 คน อ้างว่าพบเห็นมนุษย์ประหลาด ที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายมนุษย์ต่างดาวที่บริเวณทุ่งนาใกล้ลำเหมืองกลางหมู่บ้าน เมื่อเช้าตรู่วันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมาจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ประธานอำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยาศาสตร์ทางจิต ผู้ที่ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว และ”ยูเอฟโอ” มากว่า 10 ปี ได้แสดงความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวน่าจะมาที่ อ.แม่จัน จริง เพราะภายหลังจากทราบเรื่องก็ได้ส่งผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไปตรวจสอบพื้นที่ และพูดคุยกับชาวบ้าน
"จนได้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30น. ขณะที่ชาวบ้านประมาณ 15 คน กำลังจะออกไปทำนา ก็เห็นมนุษย์รูปร่างประหลาด ผิวสีเหลือง ดวงตาโตลักษณะวงรี ศีรษะลักษณะคล้ายหลอดไฟนีออน และลำตัวเล็ก แต่ชาวบ้านไม่ได้สังเกตลักษณะมือ และเท้าว่ามีกี่นิ้ว โดยมนุษย์ประหลาดได้ปรากฏตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยืดลำตัวยาวสูงเท่าต้นมะขวิด ก่อนจะลอยขึ้นไปบนฟ้าและหายไป" ดร.เทพนมผู้คร่ำหวอดในการตามหาและสัมผัสกับมนุษย์ต่างดาวของประเทศไทยอธิบาย
ศ.ดร.นพ.เทพนม กล่าวต่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นที่ อ.แม่จัน ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้มีผู้พบเห็นมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโออยู่หลายครั้ง สำหรับเขาได้มีโอกาสเห็นยานมนุษย์ต่างดาว และมีรูปที่ถ่ายเก็บไว้ได้ประมาณ 200 รูป อีกทั้งมีชาวต่างชาติที่สนใจติดต่อขอซื้อภาพดังกล่าวอยู่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดขณะที่ตนกำลังตีกอล์ฟ มนุษย์ต่างดาวก็ได้ลงมาดู โดยยืนห่างจากเขาประมาณ 100 เมตรก่อนจะหายตัวไป
“เหตุที่มนุษย์ต่างดาวไม่กลัวคน เชื่อว่าเขาคงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่ามนุษย์ในการป้องกันตัว จึงไม่เกิดความกลัว และคิดว่าคงไม่มีใครมาสร้างสถานการณ์ เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร เรื่องนี้จึงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะต่างประเทศได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก” ประธานอำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยาศาสตร์ทางจิต กล่าว
ด้าน ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ นักวิชาการอาวุโส ซึ่งศึกษาทางด้านมิติคู่ขนาน ให้ความเห็นว่าเป็นไปได้ที่จะเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง แต่ก็ไม่ยืนยันว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเต็มร้อยเพียงแต่มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะในจักรวาลนั้นมีมิติที่ซับซ้อน มีโลกคู่ขนานที่อาจจะอยู่ห่างจากโลกเราเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเพียงแต่เราไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะว่าเราชินในการรับรู้สิ่งที่สื่อกันด้วยความถี่คลื่นของแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น เสียง แสง คลื่นวิทยุต่างๆ ในโลก 4 มิติของเรา ซึ่งโลกที่มีมิติมากกว่าอาจจะสื่อกันด้วยสิ่งอื่น ดังนั้นการมาให้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาวในโลกที่มีมิติมากกว่า เช่น 6 มิติ อาจจะทำลายมิติลงเพื่อมาปรากฏให้เราเห็นก็ได้
ทั้งนี้ “หมอประสาน” เชื่อว่าสิ่งที่อยู่ในโลกที่มิติมากกว่าจะสามารถทำลายมิติเพื่อมาปรากฏในมิติที่ต่ำกว่าได้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่าหนังสือ “โลกคู่ขนาน” (Parallel World) ของ ดร.มิชิโอะ กากุ (Dr. Michio Kaku) นักฟิสิกส์จากซิตียูนิเวอร์สซิตีออฟนิวยอร์ก (City University of New York) ได้อธิบายถึงการมีอยู่จริงของโลกคู่ขนานด้วยทฤษฎีที่มีข้อสมมติฐานทางคณิตศาสตร์ที่สมบูรณ์ อีกทั้งลักษณะของมนุษย์ต่างดาวที่ชาวบ้านบอกเล่าก็คล้ายๆ กับมนุษย์ต่างดาวที่เชื่อว่ามีอยู่จริงคือหัวโต สีเหลืองๆ เขียว เกือบเทา ขาลีบ ปากเล็ก ตาโตและสูงประมาณ 3 ฟุตซึ่งก็ใกล้เคียงกับคำบอกเล่า
ขณะเดียวกันนายนิพนธ์ ทรายเพชร ราชบัณฑิตสาขาดาราศาสตร์ให้ความเห็นว่าอย่าเพิ่งไปเชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ควรดูให้ละเอียดก่อนเพราะอาจจะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นก็ได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ก็มีสามารถทำให้มีขึ้นได้ซึ่งก็ไม่ใช่ของแปลก อย่างภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นยูเอฟโอเมื่อพิสูจน์แล้วก็พบว่าเป็นภาพที่แต่งขึ้น อีกทั้งหากเป็นมนุษย์มนุษย์ต่างดาวจริงๆ ก็ควรจะเดินทางด้วยยานอวกาศ เพราะในทางฟิสิกส์แล้วไม่สามารถเดินทางโดยไม่มียานได้ และถ้าหากมาจริงโดยไม่มียานก็อาจจะเป็นวิญญาณซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เครดิต :: [You must be registered and logged in to see this link.]
.
.
.
เรื่องนี้มันนานแล้วล่ะ แต่อ่านๆไว้บ้างก้อดีนาาาา +w+''